เช้าวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๗ หลังจากที่สามเณรอุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว คณะกองทัพธรรมตื่นนอนกันตั้งแต่ตีสาม และออกเดินทางตั้งแต่เวลา ๐๔.๐๐ น. เพื่อเริ่มต้นการเดินทางจาริกแสวงบุญสังเวชนียสถานอินเดีย-เนปาล
ด้วยรถบัสปรับอากาศจำนวน ๘ คัน คุณแม่และโยมอุปัฏฐากส่วนหนึ่งเดินทางด้วยรถตู้ เพื่อความคล่องตัวในการประสานงานและซื้ออาหารสำหรับคณะกองทัพธรรมในบางช่วง
รถบัสคันที่ ๑ - ๗ เป็นรถสำหรับพระใหม่ และพระพี่เลี้ยง คันที่ ๘ เป็นรถบัสสำหรับแม่ใหม่
และแม่พี่เลี้ยง รถคันที่ ๘ นี้ มีหลวงตา ๒ รูป (พระราชปัญญาเมธี และ พระครูสุวัฒนานุกูล
ชนินโท) เมตตามาดูแลแม่พรหมจาริณี
หลวงตานำพวกเราสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น บนรถ รวมถึงการเทศน์โปรดเล่าถึงพุทธประวัติสถานที่แต่ละแห่งที่เรากำลังจะไป ท่านมีเมตตาต่อเรามากจริงๆ...สาธุ
๑๑. นครราชคฤห์
นครราชคฤห์ที่เราจะไปนี้
ตามพุทธประวัติ คือเมืองที่มีพระเจ้าพิมพิสารเป็นกษัตริย์ปกครอง
เมื่อกล่าวถึงพระเจ้าพิมพิสารนี้ ผู้เขียนนึกถึงตอนเด็กๆที่เรียนพุทธประวัติ จำได้แต่เพียงเล็กน้อยว่าพระองค์มีพระนามที่ไพเราะ
และเป็นกษัตริย์ที่ให้การอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาเพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน
ผู้เขียนจึงได้สืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตมาประกอบบทความนี้
"พระเจ้าพิมพิสารเป็นกษัตริย์ครองเมืองราชคฤห์แคว้นมคธ ในคราวที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวชแล้วได้เสด็จไปประทับอยู่ที่ปัณฑวบรรพตแคว้นมคธ
(ตอนนั้นพระพุทธองค์ยังไม่ได้ตรัสรู้) พระเจ้าพิมพิสารได้ทราบข่าวจึงเสด็จไปนมัสการ และชักชวนให้สละเพศบรรพชิตมาครองราชย์ด้วยกัน
เมื่อได้รับคำปฏิเสธ พระเจ้าพิมพิสารจึงขอคำปฏิญญาว่า
"หากทรงค้นพบสิ่งที่แสวงหาเมื่อใดขอให้มาสอนพระองค์เป็นคนแรก"
ด้วยเหตุนี้เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ได้โปรดปัญจวัคคีย์ โปรดพระยสะและสหายมีพระอรหันต์จำนวน ๖๐ องค์ ที่ทรงส่งไปประกาศพระศาสนายังแคว้นต่างๆแล้วพระองค์จึงเสด็จมุ่งตรงไปยังเมืองราชคฤห์แคว้นมคธ
เพื่อเปลื้องคำปฏิญญาที่ประทานให้กับพระเจ้าพิมพิสาร
พระพุทธองค์ทรงพิจารณาเห็นว่าพระเจ้าพิมพิสารเป็นผู้นำแคว้นใหญ่
ถ้าพระเจ้าพิมพิสารทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาแล้วประชาชนคนอื่นๆ ก็จะดำเนินรอยตาม ทรงดำริเช่นนี้จึงเสด็จไปยังเมืองราชคฤห์ สมัยนั้นพระเจ้าพิมพิสารและชาวเมืองทรงเคารพนับถือชฏิลสามพี่น้องอยู่พระองค์จึงต้องไปโปรดสามพี่น้องก่อน
เมื่อพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดชฎิลสามพี่น้องสละลัทธิความเชื่อดังเดิมนั้นมาเป็นสาวกของพระองค์หมดแล้วก็พาสาวกใหม่จำนวนพันรูปไปพักยังสวนตาลหนุ่มใกล้เมืองราชคฤห์
เมื่อพระเจ้าพิมพิสารได้สดับข่าวนี้จึงเสด็จพร้อมประชาชนจำนวนมากไปยังสวนตาลหนุ่มได้เห็นอาจารย์ของตนนั่งคุกเข่าคองอัญชลีต่อพระพุทธเจ้าประกาศเหตุผลที่สละลัทธิความเชื่อถือเดิมหันมานับถือพระพุทธศาสนาก็หายสงสัย
ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าแล้วนับถือพระรัตนตรัยและถวายภัตตาหารแด่พระพุทธเจ้า
พร้อมภิกษุสงฆ์ที่พระราชวังในวันรุ่งขึ้น
หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ถวายสวนไผ่นอกเมืองให้เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาเรียกว่า "วัดเวฬุวัน" เมื่อหันมานับถือพระพุทธศาสนาแล้ว พระเจ้าพิมพิสารทรงนำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างเข้มแข็งจนแว่นแคว้นของพระองค์มีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วว่าเป็นดินแดนแห่งพระธรรม
พระเจ้าพิมพิสารมีพระโอรสนามว่าอชาตศัตรู
(ผู้เกิดมาไม่เป็นศัตรู) ในช่วงตั้งครรภ์พระนางเวเทหิพระมเหสีทรงแพ้พระครรภ์ใคร่เสวยพระโลหิตของพระสวามีโหราจารย์ทำนายว่าพระโอรสองค์นี้จะทำปิตุฆาตเมื่อพระโอรสประสูติแล้วทรงให้การศึกษาอบรมเป็นอย่างดี
เจ้าชายน้อยก็อยู่ในพระโอวาทเป็นอย่างดีแต่พอเจ้าชายน้อยได้รู้จักพระเทวทัต ถูกพระเทวทัตล้างสมองให้เห็นผิดเป็นชอบจนจับพระเจ้าพิมพิสารขังคุกให้อดพระกระยาหารจนสิ้นพระชนม์
พระเจ้าพิมพิสารได้เสด็จเดินจงกรมยังชีพอยู่ในคุกได้ด้วยพุทธานุสสติคือมองลอดช่องหน้าต่างทอดพระเนตรดูพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นลงเขาคิชฌกูฏพร้อมภิกษุสงฆ์ทุกวัน
เมื่อรู้ว่าเสด็จพ่อยังเดินอยู่ได้กษัตริย์อกตัญญูก็สั่งให้เอามีดโกนเฉือนพระบาทเอาเกลือทาย่างด้วยถ่านไฟร้อน
พระเจ้าพิมพิสารทนทุกขเวทนาไม่ไหวก็สิ้นพระชนม์ ณ ที่คุมขังนั้นแล
พระเจ้าพิมพิสารเป็นกษัตริย์ผู้ทรงธรรมทรงอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี ทำให้พระพุทธศาสนาหยั่งรากลงในแคว้นมคธและเจริญแพร่หลายชั่วระยะเวลาอันรวดเร็วชาวพุทธจึงควรระลึกถึงพระคุณของพระองค์ในข้อนี้"
คณะเราเดินทางถึงนครราชคฤห์ ประมาณเวลา
๐๗.๐๐ น. ช่วงที่เดินทางนี้ หลวงตานำแม่ๆ สวดมนต์ทำวัตรเช้าบนรถ จากนั้นเราได้รับแจกอาหารเช้า
เป็นอาหารกล่องที่คุณแม่ได้ให้ทางโรงแรมเตรียมให้อย่างดี
มีอาหารหลายชนิดหมุนเวียนไป ที่เป็นอาหารหลักๆ
ได้แก่ ข้าวผัด ไข่ต้ม ไข่เจียว ผัดผักกระหล่ำปลี ไก่ทอด ขนมปังแซนวิช กล้วยน้ำว้า น้ำมะม่วงกล่อง อาหารที่นี่มีรสชาดไม่จัด ไม่เผ็ดและมีเนื้อสัตว์น้อย เหมาะแก่ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติเป็นอย่างยิ่ง
ผู้เขียนและเพื่อนแม่ใหม่จะรับประทานอย่างระมัดระวัง ให้อิ่มเป็นอย่างๆไป
อะไรที่ไม่ทานจะไม่เปิด เนื่องจากเมื่อทานเสร็จแล้ว
แม่ใหม่จะมอบให้เป็นทานแก่เด็กหนุ่มชาวอินเดียที่เป็นเด็กประจำรถ มื้อหนึ่งๆก็หลายกล่องทีเดียว
บางท่านก็นำไปแจกให้กับเด็กๆที่มาขอให้เขานำไปรับประทานต่อไป
เมื่อขบวนรถบัสแล่นผ่านเข้าตัวเมืองแล้ว
หลวงตาได้อธิบายและชี้ชมเมืองเป็นระยะ
นครราชคฤห์ที่เราเดินทางมาถึงนี้
ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่สูงล้อมรอบด้วยภูเขาสำคัญๆ ถึง ๕ ลูก คือ อิสิคิลิ ปัณฑวะ เวภาระ คิชฌกูฏ และ เวปุลละ จึงเรียกในวรรณคดีบาลีอีกชื่อหนึ่งว่า"เบญจคีรีนคร"นอกจากนี้ราชคฤห์ยังประกอบด้วยกำแพงเมืองถึง ๒ ชั้น คือ รอบนอก และรอบใน แต่ละรอบมีพลเมืองอาศัยอยู่ รอบละ ๙ โกฏ (๙๐ ล้านรวมทั้งหมด ๑๘ โกฏ เท่ากับ ๑๘๐ ล้านคน) มีประตูใหญ่ ๑๒ ประตู ประตูเล็ก ๖๔ ประตู
ประตูเมืองทั้งหมดเปิด-ปิดเป็นเวลา เมื่อหมดเวลาแล้วใครก็ไม่มีสิทธิ์สั่งให้เปิดได้ แม้แต่พระเจ้าพิมพิสารเองขณะที่ไปรอพระสงฆ์สรงน้ำอยู่ ณ ตโปทาราม บ่อน้ำพุร้อนนอกเมือง
กว่าพระองค์จะได้สรงและสรงเสร็จ ก็ปรากฏว่าประตูเมืองปิดไปเรียบร้อยแล้ว
เป็นเหตุให้พระเจ้าแผ่นดินต้องบรรทมค้างแรมนอกเมือง รอจนประตูเมืองเปิดตอนรุ่งของเช้าวันใหม่ จึงเสด็จเข้าวังได้
เมืองราชคฤห์แคว้นมคธนี้ ต้องถือว่าเป็นป้อมปราการของพระพุทธศาสนาตั้งแต่เริ่มแรก
จนถึงพระพุทธศาสนาแพร่ไปยังนานาประเทศ และดำรงอยู่มาจนถึงยุคปัตนะ
ซึ่งได้เสื่อมไปจากแผ่นดินถิ่นเกิด
ปัจจุบันราชคฤห์เหลือฐานะเพียงเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ขึ้นกับจังหวัดนาลันทา รัฐพิหาร ห่างจากนาลันทาราว ๑๖ กม. ห่างจากพุทธคยาราว ๘๐ กม. ห่างจากปัตนะ
เมืองหลวงของรัฐพิหารราว ๑๐๐ กม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น