หน้าเว็บ

8/23/2558

นักบวชสตรี ๒๐. เวสาลี เมืองที่พระพุทธองค์ทรงเมตตาโปรดช่วยระงับโรคระบาดร้ายแรง (กำเนิดรัตนสูตรและการทำน้ำพระพุทธมนต์)

      
      หลังการจาริกกูฏาคารศาลาแล้ว เย็นวันนั้นคณะกองทัพธรรมได้เดินทางไปทำวัตรเย็นวัดไทยไวสาลี ซึ่งเป็นวัดที่คณะสงฆ์กองทัพธรรมจำวัด ความรู้ที่ได้จากการฟังธรรมในคืนนี้ คือ ได้ทราบว่าเมืองเวสาลีนี้เคยเกิดอหิวาตกโรคระบาดและพระพุทธองค์ได้ทรงเมตตาช่วยระงับโรคระบาด ผู้เขียนได้สืบค้นเรื่องราวน่ามหัศจรรย์ของพลังแห่งพุทธคุณในคราวนั้นมาประดับความรู้ ดังนี้
       สมัยพุทธกาล เมื่อครั้งเกิดอหิวาตกโรคระบาดที่เมืองเวสาลี ในช่วงเวลานั้นเกิดภัยแล้ง ข้าวกล้าในไร่นาเกิดความเสียหายหนัก ผู้คนอดอยากและล้มตายเป็นจำนวนมาก ชาวเมืองเวสาลีนำซากศพเหล่านั้นไปทิ้งไว้นอกเมือง กลิ่นซากศพนั้น เหม็นตลอดไปทั่วพระนคร กาลนั้น หมู่อมนุษย์ทั้งหลาย ก็เข้ามากินซากศพ แล้วตรงเข้าไปสู่พระนคร เป็นเหตุให้ชนผู้คนในพระนครติดอหิวาตกโรค และโรคนานา จนผู้คนล้มตายลงเป็นอันมาก ในพระไตรปิฎกกล่าวว่า
       เพราะกลิ่นซากศพของคนที่ตายทั้งหลาย พวกอมนุษย์ทั้งหลายก็เข้าเมือง ต่อแต่นั้นคนก็ตายมากต่อมาก เพราะความปฏิกูลนั้น อหิวาตกโรคย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ทั้งหลาย”
ขณะนั้นกล่าวได้ว่า นครไพสาลี มีภัยเกิดขึ้น ๓ ประการ คือ
๑. ทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพง มนุษย์ล้มตายลงเพราะอดอาหาร
๒. อมนุษย์ภัยเบียดเบียน ตายด้วยภัยของอมนุษย์
๓. โรคภัย ผู้คนล้มตายด้วยโรคภัยต่าง ๆ มีอหิวาตกโรค เป็นต้น
       ชาวเมืองเวสาลีช่วยกันค้นหาสาเหตุของทุพภิกขภัยครั้งนี้ ได้กราบทูลพระราชา(คือพระเจ้าลิจฉวี) ว่า คงเป็นเพราะพระองค์ไม่ตั้งอยู่ในธรรมกระมัง จึงเกิดทุกข์เข็ญเช่นนี้ พระราชาจึงรับสั่งให้ช่วยตรวจสอบว่าพระองค์ไม่ตั้งอยู่ในธรรมข้อใด ประชาชนก็ช่วยกันพิจารณาตรวจสอบแต่ไม่พบข้อบกพร่องแต่อย่างใด ต่อมามีบางพวกเสนอว่า บัดนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าได้บังเกิดขึ้นแล้ว พระองค์เป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก ขอได้โปรดกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระพุทธองค์มาโปรดชาวเมืองเวสาลีด้วยเถิด
       ในขณะนั้นพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่เมืองราชคฤห์และพระเจ้าพิมพิสารทรงอุปัฏฐากพระพุทธองค์อยู่ เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบว่าชาวเมืองเวสาลีได้ทูลอาราธนาพระองค์เสด็จดับทุกข์ให้ จึงทรงรับด้วยทรงทราบชัดว่า
       "เมื่อเราแสดงรัตนสูตรในเมืองเวสาลีแล้ว อารักขาจะแผ่ไปตลอดแสนโกฏิจักรวาล ในเวลาจบพระสูตร ธรรมาภิสมัยจักมีแก่สัตว์แปดหมื่นสี่พัน"
(ธรรมาภิสมัย : ความหมายจากพจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน: การตรัสรู้ธรรม การสําเร็จมรรคผล)
       พระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์ ๕๐๐ รูป จึงเสด็จไปยังนครเวสาลีเมื่อพระองค์เสด็จไปถึงเมืองเวสาลี เกิดฝนตกหนัก เรียกว่า "ฝนโบกขรพรรษ" ซึ่งมีลักษณะพิเศษดังนี้
      ๑. น้ำฝนนี้มีสีแดงดังเท้านกพิราบหลั่งไหลเสียงสนั่นลั่นออกไปไกลเหมือนเสียงสายฝนธรรมดา
      ๒. ถ้าผู้ใดปรารถนาจะให้เปียกกายจึงจะเปียก หากมิได้ปรารถนาแม้แต่เม็ดหนึ่งก็มิได้เปียก
      ๓. เมื่อถูกกายแล้วจะหล่นสู่พื้นดินเสมือนหยาดน้ำที่ตกลงสู่ใบบัวแล้วกลิ้งตกลงไปฉะนั้น
      ๔. ไม่เจิ่งนองพื้นดิน เมื่อตกลงแล้วก็ซึมหายไปในแผ่นดินทันทีเป็นฝนพิเศษ
ฝนโบกขรพรรษนี้ตกหนักจนเกิดน้ำท่วมถึงเข่าถึงเอวถึงคอ แล้วน้ำพัดพาเอาซากศพเหล่านั้นลงไปในแม่น้ำคงคาจนหมดสิ้น แผ่นดินก็สะอาดบริสุทธิ์ขึ้น
       ต่อมาพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับยืนอยู่ที่ประตูพระนครตรัสเรียกพระอานนท์มาแล้วตรัสสอน "รัตนสูตร"แก่พระอานนท์ แล้วโปรดให้ทำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมไปทั่วเมือง ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า
       “เพื่อกำจัดอุปัทวะเหล่านั้น ที่ประตูพระนครเวสาลี สวดอยู่เพื่อป้องกัน ใช้บาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าตักน้ำ เที่ยวประพรมอยู่ทั่วพระนคร ก็เมื่อพระเถระกล่าวคำว่า "ยังกิญจิ"เท่านั้น พวกอมนุษย์ทั้งหลายที่อาศัยกองหยากเยื่อ และประเทศแห่งฝาเรือนเป็นต้น ซึ่งยังไม่หนีไปในกาลก่อน ก็พากันหนีไปทางประตูทั้ง ๔ เมื่อพวกอมนุษย์ไปกันแล้ว โรคของมนุษย์ทั้งหลายก็สงบ”
       นี่เองเป็นที่กำเนิดของ"รัตนสูตร" และการทำน้ำพระพุทธมนต์ครั้งแรกในพุทธศาสนา สำหรับบทสวดรัตนสูตรหรือรัตนปริตร จัดเป็นหนึ่งในพระปริตรหรือพระคาถาพรรณนาอานุภาพของพระรัตนตรัย เนื้อมนต์สรรเสริญคุณของพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ การตั้งจิตของอาราธนาเอาคุณความดีของพระรัตนตรัยนั้นมาปกปักรักษาตน ช่วยทำลายความทุกข์โศกให้สิ้นไปและขออำนวยความสุขสวัสดิ์แก่ตน 
        เรื่องราวของเวสาลียังมีอีกหลายประการ หากสืบค้นมาเล่าโดยละเอียด ผู้เขียนคงจะจัดทำบทความนี้ไม่เสร็จได้ง่ายๆ จึงขอบันทึกหัวเรื่องไว้ให้ท่านที่สนใจไปหาอ่านกันตามสะดวก ได้แก่ กำเนิดของพระสูตรต่างๆ และเรื่องราวความแตกแยกของสงฆ์เนื่องจากการปฏิบัติพระวินัยแตกต่างไปจากพระสงฆ์ส่วนใหญ่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น