๒๐
เมษายน ๒๕๕๗ เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. คณะจาริกแสวงบุญชุดสุดท้ายออกเดินทางจากวัดป่าไตรสิกขาภาวนา มุ่งสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ระหว่างทางในรถบัสที่ผู้เขียนนั่งไป มีการสวดมนต์ทำวัตรเย็นบนรถ และท่านนายพลหัวหน้าคณะได้ขอให้ทุกคนสวดมนต์บทพาหุงมหากา
ซึ่งเป็นบทสวดมนต์ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสวดในยามออกศึกสงคราม
ทุกเสียงที่สวดประสานกันก่อให้เกิดพลังใจที่ฮึกเหิมประหนึ่งว่า
วันนี้เราไปในนามกองทัพธรรม กองทัพของแผ่นดิน ผู้เขียนน้อมใจตั้งใจสวด
ขณะที่สวดเกิดอาการปีติ ขนลุก และน้ำตาไหล
คณะเราเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประมาณเวลา ๑๙.๐๐
น. จากนั้นก็รอเวลาออกเดินทางจากประเทศไทย
เวลา ๒๓.๐๕ น. ช่วงนี้ เราได้รับ การดูแลอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีจากฝ่ายตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น
และที่เป็นรุ่นพี่ที่บวชมาก่อน
เมื่อขึ้นเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่เครื่องบินยกตัวเหินฟ้าออกจากแผ่นดินไทย
ผู้เขียนได้ยินเสียงสวดมนต์ให้พรจากคณะสงฆ์รอบลำ เป็นระยะเวลานานพอสมควร เสมือนท่านส่งคณะเรา
ขณะเดินทางเครื่องบินสั่นบ้าง เนื่องจากบินฝ่าสายฝน
นึกว่าพระพิรุณจะไม่มาส่งเสียแล้ว เพราะทุกวันก่อนที่คณะชุดก่อนหน้าชุดเราจะออกเดินทางจากวัด ฝนจะตก แต่วันที่คณะสุดท้าย
ออกเดินทางแสงแดดจัด ไม่มีฝน
เครื่องบินใช้เวลาเดินทางประมาณ
๒ ชั่วโมง ๓๐ นาที ถึงแผ่นดินประเทศอินเดีย ณ สนามบิน Kolkata เวลาประมาณ ๐๐.๓๕ น. ของวันที่ ๒๑
เมษายน ๒๕๕๗ เวลาที่อินเดียช้ากว่าเรา ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที จากนั้นคณะก็ขึ้นรถบัสปรับอากาศที่มารอรับมุ่งหน้าสู่
เมืองพุทธคยา ขอเล่าเพิ่มเติมว่า เนื่องจากการจัดโครงการนี้จัดอย่างรีบเร่ง
ประกอบกับเป็นฤดูร้อนไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวจึงไม่มีเครื่องบินไปลงที่สนามบินคยา
ต้องบินไปลงที่สนามบิน Kolkata ก่อนแล้วนั่งรถโค้ชปรับอากาศอีกประมาณ
๘ - ๑๐ ชั่วโมง เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองพุทธคยา
คณะของผู้เขียนเดินทางโดยมีแม่พรหมจาริณีพี่เลี้ยง
อุบาสิกาเจ้าภาพ/โยมอุปัฏฐาก และ อุบาสก/โยมอุปัฏฐาก ท่านทั้งหลายเหล่านี้
มีเมตตาดูแลคณะอย่างดียิ่ง คุณโอ๋จัดข้าวเหนียวหมูทอดห่อใหญ่จากเมืองไทยเป็นอาหารเช้าแจกให้ทุกคนรับประทานบนรถ และนำดอกบัวใส่ลังโฟมแช่เย็น
สำหรับใช้บูชาในพิธีบวชพระและพรหมจาริณี
ท่านผู้อ่านลองนึกถึงภาพลังนี้ว่าบวชพระ-พรหมจาริณีกว่าสองร้อยรูป
จะมีจำนวนหลายลังเพียงใด ที่เจ้าภาพท่านต้องจัดหาและขนส่งบินข้ามน้ำข้ามทะเล
นั่งรถต่อไปอีก ๑๐ ชั่วโมง เพื่อให้พวกเราได้ใช้ประกอบพิธีบวช
ดอกบัวนี้ยังสดและสวยงามมากเมื่อถึงมือผู้บวชทุกท่าน ...สาธุ ผู้เขียนซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง
ขอน้อมกราบขอบพระคุณท่านด้วยใจระลึกในพระคุณ
ผลบุญนี้คงส่งผลให้ท่านงดงามทั้งภายนอกและภายใน
ระหว่างเดินทาง
ทิวทัศน์ข้างทางที่ผ่าน แม้อากาศร้อน แผ่นดินแห้งแล้ง
บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นอิฐแดงก่อปูนไม่ทาสี ไม่สะอาดสวยงามเหมือนเมืองท่องเที่ยว
แต่ผู้เขียนกลับรู้สึกว่าแผ่นดินอินเดียช่างเป็นธรรมชาติปราศจากการปรุงแต่ง
ตลอดทางผู้เขียนยังคงเจริญสติระลึกรู้กายใจ ลมหายใจ สวดมนต์ และหลับตานั่งสมาธิบนรถเป็นระยะๆ
เสียงสวดมนต์แว่วผ่านเข้ามาเรื่อยๆตลอดเส้นทาง
ผู้เขียนมั่นใจว่าไม่ใช่เสียงที่ได้รับจากทางหูซึ่งเป็นของหยาบที่เกิดจากการสั่นสะเทือนตามหลักการเกิดเสียง
เสียงที่ได้ยินนี้เป็นของละเอียดกว่า
ดูเหมือนอาจเป็นสัญญาความจำได้หมายรู้เดิมในใจ อาจเป็นเพราะแผ่นดินนี้เราเคยอยู่
หรืออาจเพราะเขาต้อนรับคณะเราก็เป็นได้ ขณะเดินทางนี้
พี่นายทหารอากาศหญิงที่นั่งติดกันบนรถหันมาชวนคุยว่า
"พี่ได้ยินเสียงสวดมนต์ตอนเครื่องบินขึ้นและตอนนี้พี่ก็ยังได้ยินเสียงสวดมนต์อยู่เรื่อยๆเป็นระยะๆ
แก้วได้ยินไหม ตอนนี้พี่ก็ได้ยินอยู่"
ในช่วงการจาริกแสวงบุญนี้
ผู้เขียนและอีกหลายท่านก็ได้รับประสบการณ์เดียวกันนี้ บางท่านถึงกับลงมาจากห้องพัก
เดินสำรวจหาแหล่งที่มาของเสียง
สำหรับผู้เขียนเองเคยได้ยินเสียงสวดมนต์ที่ไพเราะมากตอนอยู่บ้านเราบ้าง
แต่ไม่นานและบ่อยเท่าที่ดินแดนพุทธภูมิอันศักดิ์สิทธิ์นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น