ณ
พระแท่นบรรทม หรือเตียงปรินิพพานนั้นเองพระพุทธองค์ได้ทรงปรารภเรื่องราวต่างๆ
หลายเรื่องกับพระอานนท์พุทธอุปัฎฐากรวมทั้งเรื่องสังเวชนียสถานทั้ง ๔ ตำบล
จากในมหาปรินิพพานสูตร พอสรุปได้ดังนี้
ครั้งนั้นพระอานนท์เถรเจ้าได้กราบทูลพระองค์ว่าในกาลก่อนภิกษุทั้งหลายที่ได้แยกย้ายกันไปจำพรรษาอยู่ตามชนบทในทิศต่างๆ
เมื่อสิ้นไตรมาสครบ ๓ เดือน ตามวินัยนิยมหรือออกพรรษาแล้วข้าพระองค์ทั้งหลายก็ย่อมจะเดินทางมาเฝ้าพระองค์เป็นอาจิณวัตรก็เพื่อจะได้เห็นจะได้เข้าใกล้จะได้อุปัฏฐากพระองค์ อันจะทำให้เกิดความเจริญทางจิตก็มาบัดนี้เมื่อกาลแห่ง การล่วงไปแห่งพระองค์แล้ว
ก็แล้วข้าพระองค์ทั้งหลายก็จะไม่ได้เห็นจะไม่ได้นั่งใกล้
จะไม่ได้สากัจฉา(สนทนาธรรม) เหมือนกับสมัยที่พระองค์ยังมีพระชนม์ชีพอีกต่อไป
เมื่อพระอานนท์กราบทูลดังนี้แล้วพระตถาคตเจ้าได้ทรงแสดงสถานที่
๔ ตำบลว่า เป็นสิ่งที่ควรจะดูควรจะได้เห็น ควรจะเกิดสังเวช(ความสลดใจกระตุ้นเตือนจิตใจให้คิดกระทำแต่สิ่งดีงาม)แก่กุลบุตร กุลธิดา
ผู้มีศรัทธา คือ
๑. สถานที่พระตถาคตเจ้าบังเกิดแล้วคือประสูติจากพระครรภ์มารดาตำบลหนึ่งคืออุทยานลุมพินี
๒. สถานที่พระตถาคตเจ้าตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณตำบลหนึ่ง
คือ ควงไม้โพธิ์ พุทธคยา
๓.สถานที่พระตถาคตเจ้าให้พระอนุตรธัมมจักเป็นไปหรือแสดงปฐมเทศนาตำบลหนึ่ง
คือ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี (ปัจจุบันเรียก สารนาถ)
๔. สถานที่พระตถาคตเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสส
นิพพานธาตุตำบลหนึ่ง คือ สาลวโนทยาน
เมืองกุสินารา (ปัจจุบันเรียก กาเซีย) ให้เกิดความสังเวชของกุลบุตร กุลธิดา
ผู้มีศรัทธา
อนึ่ง ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสกอุบาสิกา
ผู้มีศรัทธามายังสถานที่ ๔ ตำบลนี้
ด้วยมีความเชื่อว่าพระตถาคตเจ้าได้บังเกิดขึ้นแล้ว ณ สถานที่นี้
พระตถาคตเจ้าได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ณ สถานที่นี้
พระตถาคตเจ้าได้ให้พระอนุตรธัมมจักเป็นไปแล้ว ณ สถานที่นี้
และพระตถาคตเจ้าได้เสด็จดับขันธปรินิพพานด้วยอนุปาทเสสนิพพานธาตุแล้ว ณ สถานที่นี้
"ดูก่อนอานนท์
ชนทั้งหลายเหล่าใดเจติยจาริกของพระตถาคตเจ้าทั้ง ๔ ตำบลนี้แล้ว จักเป็นคนเลื่อมใสเมื่อกระทำกาลกิริยา(ตาย)ลง ชนทั้งหลายเหล่านั้น
จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์"
สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงความ
๔ ตำบลว่าเป็นที่ควรเห็น ควรดู ควรให้เกิดสังเวชของกุลบุตรกุลธิดา
ผู้มีศรัทธาด้วยประการฉะนี้แล
นี้เองเป็นที่มาของสังเวชนียสถาน ๔
แห่งในดินแดนพุทธภูมิ ที่ชาวพุทธทั้งหลายสมควรอย่างยิ่งที่จะไปนมัสการกราบไหว้สักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น