หน้าเว็บ

8/14/2558

นักบวชสตรี ๑.บทนำ

       

         ณ พระแท่นบรรทม หรือเตียงปรินิพพานนั้นเองพระพุทธองค์ได้ทรงปรารภเรื่องราวต่างๆ หลายเรื่องกับพระอานนท์พุทธอุปัฎฐากรวมทั้งเรื่องสังเวชนียสถานทั้ง ๔ ตำบล จากในมหาปรินิพพานสูตร พอสรุปได้ดังนี้
       ครั้งนั้นพระอานนท์เถรเจ้าได้กราบทูลพระองค์ว่าในกาลก่อนภิกษุทั้งหลายที่ได้แยกย้ายกันไปจำพรรษาอยู่ตามชนบทในทิศต่างๆ เมื่อสิ้นไตรมาสครบ ๓ เดือน ตามวินัยนิยมหรือออกพรรษาแล้วข้าพระองค์ทั้งหลายก็ย่อมจะเดินทางมาเฝ้าพระองค์เป็นอาจิณวัตรก็เพื่อจะได้เห็นจะได้เข้าใกล้จะได้อุปัฏฐากพระองค์ อันจะทำให้เกิดความเจริญทางจิตก็มาบัดนี้เมื่อกาลแห่ง  การล่วงไปแห่งพระองค์แล้ว ก็แล้วข้าพระองค์ทั้งหลายก็จะไม่ได้เห็นจะไม่ได้นั่งใกล้ จะไม่ได้สากัจฉา(สนทนาธรรม) เหมือนกับสมัยที่พระองค์ยังมีพระชนม์ชีพอีกต่อไป
        เมื่อพระอานนท์กราบทูลดังนี้แล้วพระตถาคตเจ้าได้ทรงแสดงสถานที่ ๔ ตำบลว่า เป็นสิ่งที่ควรจะดูควรจะได้เห็น ควรจะเกิดสังเวช(ความสลดใจกระตุ้นเตือนจิตใจให้คิดกระทำแต่สิ่งดีงาม)แก่กุลบุตร กุลธิดา ผู้มีศรัทธา คือ
๑. สถานที่พระตถาคตเจ้าบังเกิดแล้วคือประสูติจากพระครรภ์มารดาตำบลหนึ่งคืออุทยานลุมพินี
       ๒. สถานที่พระตถาคตเจ้าตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณตำบลหนึ่ง คือ ควงไม้โพธิ์ พุทธคยา
       ๓.สถานที่พระตถาคตเจ้าให้พระอนุตรธัมมจักเป็นไปหรือแสดงปฐมเทศนาตำบลหนึ่ง คือ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี (ปัจจุบันเรียก สารนาถ)
       ๔. สถานที่พระตถาคตเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสส นิพพานธาตุตำบลหนึ่ง คือ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา (ปัจจุบันเรียก กาเซีย) ให้เกิดความสังเวชของกุลบุตร กุลธิดา ผู้มีศรัทธา
        อนึ่ง ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสกอุบาสิกา ผู้มีศรัทธามายังสถานที่ ๔ ตำบลนี้ ด้วยมีความเชื่อว่าพระตถาคตเจ้าได้บังเกิดขึ้นแล้ว ณ สถานที่นี้ พระตถาคตเจ้าได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ณ สถานที่นี้ พระตถาคตเจ้าได้ให้พระอนุตรธัมมจักเป็นไปแล้ว ณ สถานที่นี้ และพระตถาคตเจ้าได้เสด็จดับขันธปรินิพพานด้วยอนุปาทเสสนิพพานธาตุแล้ว ณ สถานที่นี้
        "ดูก่อนอานนท์ ชนทั้งหลายเหล่าใดเจติยจาริกของพระตถาคตเจ้าทั้ง ๔ ตำบลนี้แล้ว จักเป็นคนเลื่อมใสเมื่อกระทำกาลกิริยา(ตาย)ลง ชนทั้งหลายเหล่านั้น จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์"
        สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงความ ๔ ตำบลว่าเป็นที่ควรเห็น ควรดู ควรให้เกิดสังเวชของกุลบุตรกุลธิดา ผู้มีศรัทธาด้วยประการฉะนี้แล
        นี้เองเป็นที่มาของสังเวชนียสถาน ๔ แห่งในดินแดนพุทธภูมิ ที่ชาวพุทธทั้งหลายสมควรอย่างยิ่งที่จะไปนมัสการกราบไหว้สักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิต
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น