คำอนุโมทนาของหลวงตา
อินเดียนั้น
มีความหลากหลายทั้งผู้คน ศาสนา ความเชื่อ ภาษา และประเพณีพิธีกรรม เป็นต้น
คนอินเดียจึงมีทั้งคนที่ดีสุดๆ คือ พระพุทธเจ้าของเรา และแย่ๆสุดๆอีกมากมาย
ภูเขาสูงสุด-หิมาลัย ก็มีอยู่ที่นั่น เป็นที่จินตนาการสร้างให้แดนสวรรค์ ทะเลห้วยเหว
ก็มีอยู่ที่นั่น ผู้คนก็มีรูปร่างหน้าตา
ผิวพรรณวรรณะ แตกต่างกันไป เหมือนมิใช่คนกลุ่มเดียวกันพวกเดียวกัน การพูดจากัน
การแต่งเนื้อแต่งตัวก็หลากหลายไม่เหมือนกัน ผิวขาวก็มี ผิวเหลืองก็มี และผิวดำก็มี
ฯลฯ ลัทธิ ศาสนาก็มีมากมาย เฉพาะที่เกิดที่นั่นก็มี ทั้งพุทธ พราหมณ์-ฮินดู เชน
และซิกซ์ ไม่ต้องนับอิสลามที่ยกทัพมายึดครองอยู่เกือบ ๗๐๐ ปี และคริสต์
ก็มาเป็นเจ้าอยู่ราว ๒๐๐ ปี คงเพราะเป็นอย่างนี้กระมั้ง
อินเดียถึงมีเสน่ห์ มีความน่าพิศวงน่าทึ่งและน่ารัก น่าแค้นไปในตัว
ส่วนชาวพุทธเรานั้น
เพราะอินเดียเป็นแหล่งกำเหนิด-อุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า ไม่ว่าองค์ใดๆในอดีต ปัจจุบัน หรือองค์ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต
กล่าวเฉพาะพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันของเรา ก็มีทั้งคำสอน วัดวาอาราม เจดีย์สถานที่
และศาสนิกชนเหลืออยู่มากมาย ให้เราได้ไปศึกษา เรียนรู้ และเข้าใจอย่างลึกซึ้งกัน
“สถานที่ประสูติ-ลุมพินี,
ตรัสรู้-พุทธคยา, แสดงปฐมเทศนา-สารนาถ และปรินิพพาน-กุสินารา” ถือว่าแหล่งก่อให้เกิดบุญกุศลแก่ชีวิตเรา
อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เป็นสังเวชนียสถาน ใครก็ตามไม่ว่าบรรพชิตหรือคฤหัสถ์
เมื่อไปกราบไหว้ด้วยตามศรัทธา- ปสาทาแล้ว ก็หวังไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ได้
คิดว่าหนังสือเล่มนี้
ของ นาวาเอกหญิง กิ่งแก้ว แก้วกรรณ์ ที่ได้รวบรวมเรียงขึ้นด้วยศรัทธาปสาทาต่อพระพุทธเจ้า
เมื่อคราวมีโอกาสไปบวชเป็นพรหมจาริณี และจาริกไปจนครบสังเวชฯทุกแห่ง
จะช่วยกระตุ้นให้ท่านผู้อ่านเกิดธรรมสังเวชฯ
และศรัทธาต่อพระรัตนตรัยอันลึกซึ้งยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่การบรรลุธรรมขั้นสูงๆยิ่งขึ้นไป
จึงอนุโมทนา
แก่ผู้เรียบเรียง และผู้มีส่วนช่วยเหลือให้หนังสือเล่มนี้คลอดสู่บรรณโลกทุกๆท่าน
ด้วยเมตตาธรรม
หลวงตา พระราชปัญญาเมธี
วัดป่าไตรสิกขาภาวนา อ.วังน้ำเขียว จว.นครราชสีมา
๖ ธ.ค.๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น