หน้าเว็บ

8/29/2558

นักบวชสตรี ๒๙. เรื่องเล่าแทรก : วัดไทยลุมพินี : พระสงฆ์ทำปาฏิโมกข์ : แสงวงกลมบนท้องฟ้า : ภาพพิเศษต่างๆ

       ในการจาริกแสวงบุญนี้ มีปรากฏการณ์พิเศษหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับกองทัพธรรมระหว่างการจาริก เรื่องราวในตอนนี้อาจถูกบันทึกและเผยแพร่เฉพาะกลุ่ม เนื่องจากศรัทธาและความเชื่อที่ไม่เสมอกัน การเผยแพร่ออกไปนี้อาจก่อให้เกิดอกุศลจิตแก่ผู้อ่านบางท่านได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนคงจะละเลยไม่ได้ที่จะเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้
    ในการจาริกแสวงบุญของกองทัพธรรมครั้งนี้ เพื่อนแม่ใหม่ท่านหนึ่ง (ท่านเดียวกับที่ให้การดูแลรักษาผู้เขียนและคณะกองทัพธรรมที่เจ็บป่วยระหว่างการจาริกฯ)  เป็นผู้มีความสามารถในเรื่องการถ่ายภาพ ท่านได้บันทึกภาพสังเวชนียสถาน และสถานที่ต่างๆ ตลอดการจาริก ภาพที่ท่านบันทึกได้นี้มีหลายภาพที่มีความพิเศษ ได้แก่ ปรากฏเป็นดวงสีขาวขนาดเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง บนภาพ ณ สังเวชนียสถาน และสถานที่สำคัญต่างๆ ตลอดการจาริก
     ตัวผู้เขียนเองเคยผ่านตาภาพทำนองนี้ในวัดบ้าง จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้างมามาก  ดวงขาวๆเหล่านี้ ผู้มีภูมิธรรมท่านอธิบายว่าเป็นเทพเทวาที่ปกปักรักษาสถานที่ หรืออยู่ในวัด ความหนาแน่นของดวงเทวดาเหล่านี้ ณ สถานที่ตรัสรู้ มีความหนาแน่นมากที่สุดเท่าที่ผู้เขียนเคยเห็น เกือบทุกหนแห่งในสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา อาทิเช่น ณ เขาคิชกูฎ  และ ณ พระมหาเจดีย์ "พระมหาธาตุเฉลิมราชศรัทธา" วัดไทยกุสินารา ฯลฯ หรืออาจเรียกได้ว่ามีแทบ ทุกสถานที่สำคัญ ซึ่งมีมากบ้างน้อยบ้างตามแต่สถานที่
    เป็นเรื่องพิเศษที่ว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะถ่ายภาพเหล่านี้ได้ ในเวลาเดียวกัน คนถ่ายคนละคน กล้องที่ถ่ายคนละตัว คนหนึ่งถ่ายภาพได้ดวงเหล่านี้ติดมา แต่คนอื่นๆถ่ายไม่ติด คงเป็นเรื่องของบุญกุศลหรือบารมีที่สะสมมา ดังคำกล่าวที่พวกเราๆที่ไปวัดมักจะกล่าวกันเสมอว่า "ต่างคนต่างมีคนละหน้าที่ที่มีความหลากหลายมารวมตัวกันทำหน้าที่ทางธรรม" หรือ "ธรรมมะจัดสรร" นั่นเอง
   วัดไทยลุมพินีนี้เองเป็นสถานที่หนึ่งที่ช่างภาพแม่ใหม่ได้ภาพที่พิเศษกว่าทุกแห่งจาริกมา วัดนี้ตั้งอยู่ในปริมณฑลสังเวชนียสถาน ที่ประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ สวนลุมพินีวัน ราชอาณาจักรเนปาล สร้างขึ้นด้วยศรัทธาของพุทธบริษัทชาวไทย ในนามของรัฐบาลแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยใช้งบประมาณแผ่นดิน และผู้ศรัทธาร่วมทำบุญ ทำสัญญาเช่าที่ดิน จากรัฐบาลเนปาล จำนวน ๒ แปลง รวมพื้นที่ ๕ เอเคอร์ (๑๓ ไร่เศษ) เป็นระยะเวลา ๙๙ ปี เพื่อเป็นการบูชาคุณพระพุทธศาสนา และร่วมเฉลิมฉลอง ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ ๕๐ ปี 
     จุดเด่นของวัดนี้คือ มีพระอุโบสถสีขาวที่มีแบบแปลนเป็นเลิศด้วยสถาปัตยกรรม โดยสถาปนิก ศิลปินแห่งชาติ รศ.ดร.ภิญโญ  สุวรรณคีรี  ประธานกรรมการผู้ออกแบบ  นอกจากนี้ยังมีกุฏิสงฆ์ทรงไทย อาคารหอสวดมนต์ ทรงไทยประยุกต์ ที่พักผู้แสวงบุญ โรงทาน และอาคารต่างๆอีกหลายหลัง รวมถึงห้องน้ำ ห้องสุขา สำหรับผู้แสวงบุญ  
     หลังจากจาริกยังกรุงกบิลพัสดุ์แล้ว ช่วงหัวค่ำ คณะพระสงฆ์ทหาร - ตำรวจ และแม่ๆสวดมนต์ทำวัตรเย็น ที่ลานสนามหญ้าหน้าพระอุโบสถอันสวยงาม ณ วัดไทยลุมพินี และมีการ "สวดปาฏิโมกข์" ที่นี่เอง
      ผู้เขียนไม่ทราบว่า การสวดปาฏิโมกข์ คืออะไร สำคัญอย่างไร แต่ก่อนที่จะสวด พระอาจารย์ได้อธิบายว่า การสวดปาฏิโมกข์ เป็นการทบทวนศีล ๒๒๗ ข้อของพระภิกษุโดยจะมีการสวดทุก ๑๕ วันคือในวันขึ้น ๑๕ ค่ำและวันแรม ๑๕ ในเดือนเต็มหรือวันแรม ๑๔ ค่ำในเดือนขาด นอกจากนั้นยังทรงอนุญาตให้ทำอุโบสถเป็นพิเศษในคราวที่ภิกษุแตกความสามัคคีเมื่อภิกษุกลับมาสามัคคีกันอีกครั้งแม้จะยังไม่ถึงวันปาฏิโมกข์ก็ให้สวดปาฏิโมกข์ได้เรียกว่า "สามัคคีอุโบสถ" การฟังปาฏิโมกข์เป็นกิจของสงฆ์ที่สำคัญ และเป็นสังฆกรรมเฉพาะพระภิกษุเท่านั้น ทรงตรัสห้ามมิให้สวดปาฏิโมกข์โดยมีคฤหัสถ์ปนอยู่ในท่ามกลางหมู่ภิกษุสงฆ์
    การสวดปาฏิโมกข์ เป็นทั้งสังฆกรรมตามพระวินัย และเป็นกิจสงฆ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งผู้ที่บวชในพระพุทธศาสนาควรมีโอกาสได้ร่วมฟังใน วินัยระบุว่า วัดหนึ่งจะต้องมีภิกษุสวดปาฏิโมกข์ได้หนึ่งรูป หากไม่มีเจ้าอาวาสต้องขวนขวายให้มี หากไม่ขวนขวายเป็นอาบัติ  ถ้าขวนขวายแล้วยังไม่มี พอถึง วันปาฏิโมกข์ต้องไปร่วมฟังในวัดที่มีการสวดปาฏิโมกข์ ถ้าในย่านนั้นไม่มีวัดที่มีภิกษุสวดปาฏิโมกข์ หรือมีภิกษุไม่ครบ ๔ รูป ไม่ต้องสวดปาฏิโมกข์ แต่ให้อธิษฐานอุโบสถแทน  โดยตั้งใจว่า "วันนี้เป็นวันอุโบสถ"
    ในระหว่างที่มีการสวดปาฏิโมกข์  หากไม่มีเหตุจำเป็นจะหยุดสวดปาฏิโมกข์ในระหว่างไม่ได้ และห้ามภิกษุสวดปาฏิโมกข์ย่อ รูปใดสวด ต้องอาบัติ ทุกกฏ แต่พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้หยุดสวด ก็ต่อเมื่อมีเหตุหรือมีอันตรายในเรื่องนั้นเหล่านี้ (บางข้อมูลบอกว่าให้สวดย่อไม่ใช่ให้เลิกสวด) คือ
          ๑. พระราชาเสด็จมา 
          ๒. โจรมาปล้น 
          ๓. ไฟไหม้
          ๔. น้ำหลากมา 
          ๕. คนมามาก 
          ๖. ผีเข้าภิกษุ 
          ๗. สัตว์ร้ายเช่น เสือ เป็นต้น  เข้ามาในอาราม
          ๘. งูร้ายเลื้อยเข้ามาในที่ชุมนุม 
          ๙. ภิกษุอาพาธด้วยโรคร้ายขึ้นในที่ชุมนุมสงฆ์  อันจะเป็นอันตรายแก่ชีวิต 
          ๑๐. มีอันตรายแก่พรหมจรรย์ เช่น มีใครมาเพื่อจับภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง  
     พระสงฆ์กองทัพธรรมและพระที่มาร่วมรวมสองร้อยกว่ารูป จะได้สวดปาฏิโมกข์ในคืนนี้ จึงนับเป็นพิธีที่สำคัญ คืนนี้เป็นวันพระ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๕ การสวดปาฏิโมกข์ คือ การสาธยาย ศีล ๒๒๗ ข้อ เป็นภาษาบาลีล้วนๆ ตั้งแต่ข้อ ๑ ไปจนกระทั่งจบหมดทุกข้อ และต้องสวดไม่ให้ผิด  มีผู้คอยตรวจทานไม่ให้สวดผิด  หากสวดผิดก็ต้องทักท้วง แก้ไขให้ถูกต้อง จึงจะสวดต่อไปได้ กว่าจะสวดจนจบ ต้องใช้เวลาประมาณ  ๔๕ นาที  
    ขณะที่พระสงฆ์สวดปาฏิโมกข์นี้ แม่ๆใหม่ได้มีโอกาสนั่งอยู่ด้านหลังห่างออกมาจากอาณาเขตสงฆ์ที่ท่านกำหนดไว้  แม่ใหม่ช่างภาพของเราได้ถ่ายภาพพิเศษเป็นวงแสงขนาดใหญ่หลายวงได้หลายภาพ บนท้องฟ้าขณะพระสงฆ์สวดปาฏิโมกข์ ภาพเหล่านี้ ผู้มีภูมิธรรมสูงบอกว่าเป็นญาณของพระองค์ท่านเสด็จลงมา และไม่ได้ลงมาเพียงพระองค์เดียว เนื่องด้วย ณ ชมพูทวีปแห่งนี้เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ยังความปลาบปลื้มใจกับกองทัพธรรมอย่างยิ่ง  นี่เองคงจะเป็นการยืนยันว่าการสวดปาฏิโมกข์นี้เป็นบทสวดที่สำคัญในพระพุทธศาสนาจริงๆ
    คืนนั้นคณะพระสงฆ์กองทัพธรรมก็จำวัดที่วัดไทยลุมพินีแห่งนี้ ส่วนแม่ๆก็พักในโรงแรมใกล้เคียงเช่นเคย ไม่น่าเชื่อว่าทุกวันที่ผ่านไปในการบวชจาริกแสวงบุญจะมีอะไรให้เราเรียนรู้มากมายขนาดนี้ ขออนุโมทนาบุญกับผู้จัดทำโครงการนี้และผู้สนับสนุนทุกท่าน...สาธุ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น