หน้าเว็บ

6/16/2558

ตอนที่ ๒ ไปทำงานวันแรก


         เช้าวันแรกของการไปทำงาน แม่แก้วกุลีกุจอรีบตื่นขึ้นอาบน้ำแต่งตัว  แต่งเครื่องแบบข้าราชการกลาโหมพลเรือน ชั้นสัญญาบัตร ชุดสวยที่ตระเตรียมตัดมามาตามคำแนะนำของพี่ที่ กพ.ทร.  เครื่องแบบกลาโหมพลเรือนนี้  เป็นเสื้อสีขาว กระโปรงน้ำเงินเข้ม  มีการประดับป้ายชื่อ แพรแถบ กระดุมสีทอง และเครื่องหมายต่างๆของกลาโหมอย่างสวยงาม  ตรงบ่าจะใช้เครื่องหมายห่วงสีทอง เรียกว่า "หูกะทะ"  หูกะทะนี้เป็นเครื่องหมายของข้าราชการกลาโหมพลเรือนที่ยังไม่ผ่านการฝึกทหาร พี่ๆที่ติดยศก่อนเราจะเรียกเราว่า พวกหูกระทะพวกหูกระทะนี้ยังไม่มีหมวกใส่ เวลาแถวจะร้อนหน่อย เพราะไม่มีหมวกบังแดดเหมือนพี่ๆที่ติดยศแล้ว เมื่อฝึกเสร็จแล้ว จึงจะได้รับการเสนอลงคำสั่งติดยศต่อไป  (เรื่องการฝึกนี้ขอเก็บไว้เล่าในตอนต่อๆไป) 
             รุ่นพี่ครูภาษาที่อยู่บ้านเดียวกันได้เป็นพี่เลี้ยงแนะนำการใช้ชีวิตในรร.ชุมพลฯ การกินอยู่ การวางตัว การทำงาน และเอื้อเฟื้อพาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ไปทำงานในช่วงที่แม่แก้วยังไม่มีพาหนะไปทำงาน  ต้องขอขอบพระคุณพี่ๆที่ช่วยดูแลแนะนำน้องใหม่ที่ไม่ประสีประสาอย่างเราเป็นอย่างยิ่ง
             ไปถึงกองบังคับการ (ต่อไปขอเรียกง่ายๆว่า "บก.") สิ่งที่ต้องทำอย่างแรก คือ นำคำสั่งไปเขียนในสมุดรายงานตนเองที่หน้าห้องผู้บังคับการ รร.ชุมพลฯ (เรียกง่ายๆ ว่า ผู้การ) จากนั้นก็รายงานตัวกับผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ผู้การ หัวหน้ากองการศึกษา และหัวหน้าแผนกวิชาสามัญตามลำดับ
             ที่ รร.ชุมพลฯ จะมีกองบังคับการเป็นส่วนบังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการ กองนักเรียนดูแลความเป็นอยู่ระเบียบวินัยต่างๆ หรือที่เรียกว่า "ควด" นักเรียน ส่วนกองการศึกษา ดูแลเรื่องภาควิชาการ การเรียนการสอนในห้องเรียน และภาคปฏิบัติต่างๆที่เกี่ยวกับวิชาชีพทหารเรือ เช่น เดินเรือ การเรือ การอาวุธ นาวิกโยธิน และช่างกล เป็นต้น และยังมีวิชาพลศึกษาให้นักเรียนได้เล่นกีฬาอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกองบริการคอยดูแลเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก โยธา ไฟฟ้า ประปา จัดเลี้ยง การขนส่ง การแพทย์ การสวัสดิการ บ้านพัก สโมสร และร้านค้า ฯลฯ เรียกว่าเป็นหน่วยแยกที่เหมือนกับเมืองเล็กๆที่มีทุกอย่างครบในตัวเอง   
             ผู้ที่ทำงานใน รร.ชุมพลฯ นี้ มาจากหลายแหล่ง ได้แก่ มาจากผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือ รร.ชุมพลฯ พลทหารสมัครต่อ มีทั้งที่เป็นข้าราชการ และบางส่วนเป็นลูกจ้างประจำ สำหรับแม่แก้ว ได้ทำงานในแผนกวิชาสามัญ ซึ่งเป็นแผนกที่รวมเอานายทหารสายปริญญาที่จบจากมหาวิทยาลัยมาไว้ด้วยกัน ในแผนกจะมีครูภาษาอังกฤษ(ครูภาษา) ครูคณิตศาสตร์(ครูคณิต) และครูวิทยาศาสตร์ (ครูวิทย์) มีทั้งนายทหารชายและนายทหารหญิง แผนกอื่นๆส่วนใหญ่เขาจะมีแต่นายทหารชาย และอาจมีเสมียนเป็นผู้หญิงบ้าง แผนกวิชาสามัญเป็นแผนกเดียวที่มีนายทหารหญิงรวมอยู่ด้วยกันมากที่สุด ซึ่งที่นี่เรียกกันง่ายๆว่า "ครูผู้หญิง" 
             ที่ทำงานของแม่แก้วอยู่บนชั้น ๓ ของตึก บก. ห้องพักครูนี้มีขนาดใหญ่  เป็นที่รวมของครูแผนกวิชาสามัญทั้งชายและหญิงประมาณสิบกว่านาย  โต๊ะทำงานที่ได้รับการจัดให้นั่งทำงานชั่วคราวนี้  เป็นโต๊ะของพี่ที่ไปเรียนหลักสูตรนายทหารเรือชั้นต้น ที่กรุงเทพฯ เป็นโต๊ะทำงานไม้ขนาดใหญ่ทาแลกเกอร์ และเก้าอี้นั่งเบาะหนังพลาสติกสีน้ำเงิน โต๊ะทำงานนี้ ตั้งหันหน้าไปทางหน้า บก. มองไปด้านขวา คือ หน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับลมทะเล  มองเห็น เกาะเกล็ดแก้วโดดเด่น (จะเล่าในตอนต่อๆไป)  ตัดกับท้องทะเลสีครามและท้องฟ้าสีฟ้าสดใส  แม่แก้วจึงรู้สึกราวกับว่าได้มาทำงานที่รีสอร์ทริมทะเลยังไงยังงั้น
             รุ่นพี่หัวหน้าชุดวิชาของแม่แก้วได้นำตำราที่ใช้สอนมาให้อ่าน แล้วบอกว่า ให้เวลาเตรียมตัว ๒ สัปดาห์ เพื่อสอนนักเรียนจ่า สร้างความหนักใจให้แม่แก้วมาก  เพราะไม่เคยสอนนักเรียนหน้าชั้นมาก่อน เคยแต่สอนพิเศษเด็กครั้งละคนสองคนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย 
             แม้จะไม่มั่นใจ แต่ก็ไม่เกินความสามารถของคนเก่งอย่างเรา (ต้องปลอบใจตัวเองไว้ก่อน) เพราะมีตำราให้อ่านอยู่ตรงหน้า แม่แก้วจึงตั้งหน้าตั้งตาอ่านทำความเข้าใจ มีอะไรสงสัยก็สอบถามรุ่นพี่ เขียนสรุปเนื้อเรื่อง และซ้อมพูดกับตัวเอง เพื่อเตรียมตัวสอนนักเรียนจ่าในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น