เช้าวันแรกของการไปทำงาน
แม่แก้วกุลีกุจอรีบตื่นขึ้นอาบน้ำแต่งตัว
แต่งเครื่องแบบข้าราชการกลาโหมพลเรือน ชั้นสัญญาบัตร
ชุดสวยที่ตระเตรียมตัดมามาตามคำแนะนำของพี่ที่ กพ.ทร. เครื่องแบบกลาโหมพลเรือนนี้ เป็นเสื้อสีขาว กระโปรงน้ำเงินเข้ม มีการประดับป้ายชื่อ แพรแถบ กระดุมสีทอง
และเครื่องหมายต่างๆของกลาโหมอย่างสวยงาม
ตรงบ่าจะใช้เครื่องหมายห่วงสีทอง เรียกว่า "หูกะทะ"
หูกะทะนี้เป็นเครื่องหมายของข้าราชการกลาโหมพลเรือนที่ยังไม่ผ่านการฝึกทหาร
พี่ๆที่ติดยศก่อนเราจะเรียกเราว่า “พวกหูกระทะ” พวกหูกระทะนี้ยังไม่มีหมวกใส่
เวลาแถวจะร้อนหน่อย เพราะไม่มีหมวกบังแดดเหมือนพี่ๆที่ติดยศแล้ว เมื่อฝึกเสร็จแล้ว
จึงจะได้รับการเสนอลงคำสั่งติดยศต่อไป
(เรื่องการฝึกนี้ขอเก็บไว้เล่าในตอนต่อๆไป)
รุ่นพี่ครูภาษาที่อยู่บ้านเดียวกันได้เป็นพี่เลี้ยงแนะนำการใช้ชีวิตในรร.ชุมพลฯ
การกินอยู่ การวางตัว การทำงาน
และเอื้อเฟื้อพาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ไปทำงานในช่วงที่แม่แก้วยังไม่มีพาหนะไปทำงาน
ต้องขอขอบพระคุณพี่ๆที่ช่วยดูแลแนะนำน้องใหม่ที่ไม่ประสีประสาอย่างเราเป็นอย่างยิ่ง
ไปถึงกองบังคับการ
(ต่อไปขอเรียกง่ายๆว่า "บก.") สิ่งที่ต้องทำอย่างแรก คือ นำคำสั่งไปเขียนในสมุดรายงานตนเองที่หน้าห้องผู้บังคับการ
รร.ชุมพลฯ (เรียกง่ายๆ ว่า ผู้การ) จากนั้นก็รายงานตัวกับผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ผู้การ
หัวหน้ากองการศึกษา และหัวหน้าแผนกวิชาสามัญตามลำดับ
ที่ รร.ชุมพลฯ จะมีกองบังคับการเป็นส่วนบังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการ
กองนักเรียนดูแลความเป็นอยู่ระเบียบวินัยต่างๆ หรือที่เรียกว่า "ควด"
นักเรียน ส่วนกองการศึกษา ดูแลเรื่องภาควิชาการ การเรียนการสอนในห้องเรียน
และภาคปฏิบัติต่างๆที่เกี่ยวกับวิชาชีพทหารเรือ เช่น เดินเรือ การเรือ การอาวุธ
นาวิกโยธิน และช่างกล เป็นต้น และยังมีวิชาพลศึกษาให้นักเรียนได้เล่นกีฬาอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีกองบริการคอยดูแลเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก โยธา ไฟฟ้า ประปา
จัดเลี้ยง การขนส่ง การแพทย์ การสวัสดิการ บ้านพัก สโมสร และร้านค้า ฯลฯ เรียกว่าเป็นหน่วยแยกที่เหมือนกับเมืองเล็กๆที่มีทุกอย่างครบในตัวเอง
ผู้ที่ทำงานใน รร.ชุมพลฯ นี้
มาจากหลายแหล่ง ได้แก่ มาจากผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือ รร.ชุมพลฯ
พลทหารสมัครต่อ มีทั้งที่เป็นข้าราชการ และบางส่วนเป็นลูกจ้างประจำ สำหรับแม่แก้ว
ได้ทำงานในแผนกวิชาสามัญ ซึ่งเป็นแผนกที่รวมเอานายทหารสายปริญญาที่จบจากมหาวิทยาลัยมาไว้ด้วยกัน
ในแผนกจะมีครูภาษาอังกฤษ(ครูภาษา) ครูคณิตศาสตร์(ครูคณิต) และครูวิทยาศาสตร์
(ครูวิทย์) มีทั้งนายทหารชายและนายทหารหญิง แผนกอื่นๆส่วนใหญ่เขาจะมีแต่นายทหารชาย
และอาจมีเสมียนเป็นผู้หญิงบ้าง
แผนกวิชาสามัญเป็นแผนกเดียวที่มีนายทหารหญิงรวมอยู่ด้วยกันมากที่สุด
ซึ่งที่นี่เรียกกันง่ายๆว่า "ครูผู้หญิง"
ที่ทำงานของแม่แก้วอยู่บนชั้น ๓
ของตึก บก. ห้องพักครูนี้มีขนาดใหญ่
เป็นที่รวมของครูแผนกวิชาสามัญทั้งชายและหญิงประมาณสิบกว่านาย โต๊ะทำงานที่ได้รับการจัดให้นั่งทำงานชั่วคราวนี้ เป็นโต๊ะของพี่ที่ไปเรียนหลักสูตรนายทหารเรือชั้นต้น
ที่กรุงเทพฯ เป็นโต๊ะทำงานไม้ขนาดใหญ่ทาแลกเกอร์
และเก้าอี้นั่งเบาะหนังพลาสติกสีน้ำเงิน โต๊ะทำงานนี้ ตั้งหันหน้าไปทางหน้า บก.
มองไปด้านขวา คือ หน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับลมทะเล มองเห็น เกาะเกล็ดแก้วโดดเด่น
(จะเล่าในตอนต่อๆไป) ตัดกับท้องทะเลสีครามและท้องฟ้าสีฟ้าสดใส แม่แก้วจึงรู้สึกราวกับว่าได้มาทำงานที่รีสอร์ทริมทะเลยังไงยังงั้น
รุ่นพี่หัวหน้าชุดวิชาของแม่แก้วได้นำตำราที่ใช้สอนมาให้อ่าน
แล้วบอกว่า ให้เวลาเตรียมตัว ๒ สัปดาห์ เพื่อสอนนักเรียนจ่า สร้างความหนักใจให้แม่แก้วมาก เพราะไม่เคยสอนนักเรียนหน้าชั้นมาก่อน
เคยแต่สอนพิเศษเด็กครั้งละคนสองคนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย
แม้จะไม่มั่นใจ แต่ก็ไม่เกินความสามารถของคนเก่งอย่างเรา (ต้องปลอบใจตัวเองไว้ก่อน)
เพราะมีตำราให้อ่านอยู่ตรงหน้า แม่แก้วจึงตั้งหน้าตั้งตาอ่านทำความเข้าใจ
มีอะไรสงสัยก็สอบถามรุ่นพี่ เขียนสรุปเนื้อเรื่อง และซ้อมพูดกับตัวเอง
เพื่อเตรียมตัวสอนนักเรียนจ่าในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น