หน้าเว็บ

7/31/2558

ตอนที่ ๑๙ ตุ๊กแก และสิงสาราสัตว์ในบ้านซอย ๒

          ในตอนที่ผ่านๆมา แม่แก้วได้เล่าทิ้งท้ายไว้ถึงเรือนหอบ้านร้างซอย ๒ ที่มีตุ๊กแกอาศัยอยู่ร่วมสิบตัว ตุ๊กแกนี้มีนิสัยถ่ายเป็นที่เป็นทางมาก โดยจะถ่ายจากตามแนวคานบนเพดานไม้ที่มันเกาะ แม่แก้วต้องกวาดอุจจาระของมันทุกเช้าบนพื้นในครัวที่ตำแหน่งเดิมๆ บวกกับการมองเห็นตุ๊กแกทุกหนแห่งในบ้าน รวมทั้งในห้องนอน สร้างความหวาดผวาแก่แม่แก้วเป็นอย่างมาก
          สมัยเด็กๆ ปู่ย่าตายายขู่ไว้ว่า ถ้าถูกตุ๊กแกกัด มันจะกัดไม่ปล่อย จะโชคร้ายมาก ต้องกินขี้ ๑๐ ตุ่ม มันจึงจะปล่อย และถ้าเราดื้อ ตุ๊กแกจะมากินตับ หรืออีกเรื่อง คือ ตุ๊กแก ร้องว่า "ตับแก่ ๆ" เพื่อเรียกให้งูมากินตับแก่ของมัน ประกอบกับรูปร่างหน้าตาของตุ๊กแกน่ากลัวมาก มีหนังหนาๆ ตากกลม ปากกว้าง ตัวสีเขียวๆฟ้าๆมีจุดแดงๆส้มๆเต็มตัวไปหมด แม่แก้วจึงขอร้องให้พ่อบุญช่วยดำเนินการจับตุ๊กแกไปปล่อย (ทั้งๆที่ความจริงมันอยู่บ้านนี้มาก่อนเรา แต่เรามาทีหลังดังกว่า)
          เมื่อตกลงใจได้ว่าเรากับตุ๊กแกจะเข้าโครงการจากกันด้วยดีแล้ว (จริงๆ คือ เราตกลงใจกันเอง ตุ๊กแกไม่ได้ตกลงด้วย)  พ่อบุญจึงจัดหาอุปกรณ์จับตุ๊กแก โดยไม่เสียเลือดเสียเนื้อ จากการสอบถามผู้รู้ ซึ่งก็คือรุ่นพี่ทหารเรือในที่ทำงานนั่นแหละ  พี่เขาแนะนำกันต่างๆนานา  มีวิธีหนึ่งที่ดูน่าเชื่อถือที่สุด คือ ให้ซื้อยาฉุนมาปั้นเป็นก้อนติดปลายไม้ยาวๆไปแกว่งล่อให้ตุ๊กแกงับกลืนเข้าไป เสร็จแล้วมันจะเมายาฉุน ตกลงมาให้เราจับตัวไปปล่อยได้โดยละม่อม  เราสองคนจึงขี่มอเตอร์ไซด์ไปซื้อยาฉุนจากร้านลุงในบางเสร่ มาล่อให้ตุ๊กแกงับ  (ร้านลุงเป็นตึกไม้เก่าๆสองห้องบนถนนสายริมทะเลบางเสร่ ที่มีของขายทุกอย่างที่เราต้องการ) แต่ผลการดำเนินการครั้งแรก ครั้งสอง และครั้งต่อๆมาไม่ประสบผลสำเร็จ เจ้าตุ๊กแกไม่ยอมกินยาฉุน ไม่ว่าเราจะล่อให้ใกล้ปากยังไงก็ตาม
          เมื่อ Plan A ไม่สำเร็จ เราจึงคิด Plan B  คือ แผนของพ่อบุญ มีชื่อว่า "ปฏิบัติการพาตุ๊กแกคืนสู่ป่า" (จริงๆน่าจะเรียกวาแผนไล่ตุ๊กแกออกจากบ้านมากกว่า) ยุทโธปกรณ์ที่ใช้ใน Plan B ประกอบด้วย ไม้กวาดเพดานด้ามยาวที่ซื้อมาจากร้านลุงในบางเสร่ ผ้าขนหนูหนาๆที่ไม่ใช้เช็ดตัวแล้ว และถุงก๊อบแก๊บขนาดใหญ่พอใส่น้องตุ๊กฯและผูกปากถุงได้
          ขั้นตอนการปฏิบัติ เริ่มด้วยเงยหน้ามองหาตุ๊กแกเป้าหมายบนเพดานหรือผนังบ้าน เมื่อเจอเป้าหมายแล้ว พ่อบุญจะนำไม้กวาดเพดานด้านที่มีขนไม้กวาดเล็งให้ดีที่ตัวตุ๊กแก จากนั้นปัดลงมา ขั้นตอนนี้พ่อบุญทำอย่างว่องไวมาก กล่าวคือ ต้องปัดไล่ไปเรื่อยๆจนตุ๊กแกหล่นลงมาที่พื้น จากนั้นก็เอาไม้กวาดอันเดียวกันนี้แหละกดตัวตุ๊กแกไว้
             "ยัยโกะๆเอาถุงกับผ้ามาเร็วๆแล้วมาจับไม้กวาดกดไว้แน่นๆนะ"
          ยัยโกะ คือ ฉายานามที่พ่อบุญชอบใช้เรียกแม่แก้ว ยัยโกะที่ยืนเชียร์อยู่ก็จะรีบกระวีกระวาดไปรับช่วงถือไม้กวาดกดตัวตุ๊กแกไว้พร้อมกับส่งผ้าและถุงที่เตรียมไว้ให้พ่อบุญนำไปจับตัวตุ๊กแกที่กำลังดิ้นกระแด่วๆอยู่ ขั้นตอนนี้มีเทคนิคคือ คนกดต้องกดแรงๆ แต่ห้ามแรงจนตุ๊กแกบาดเจ็บ คนจับต้องใช้ผ้าทบให้หนาพอที่ตุ๊กแกจะงับเราไม่ได้ แต่ต้องไม่หนาไปไม่งั้นจะจับไม่ถนัด
          พ่อบุญจับตุ๊กแกตรงคอไม่ให้มันกระดุกกระดิกได้ นำมันใส่ถุงก๊อบแก๊บมัดปากถุง (พ่อบุญบอกว่า ตอนเด็กๆเล่นในทุ่งนาแถวบ้าน ชอบจับสัตว์ต่างๆเล่นบ่อยๆเลยไม่กลัวการจับตุ๊กแก) จากนั้นก็ขอกุญแจรถมอเตอร์ไซด์ขับปุเลงๆ มือนึงจับแฮนด์รถอีกมือถือถุงตุ๊กแกออกไปปล่อยไกลๆบ้านเรา สถานที่ปล่อยประจำคือปลายแหลม (เป็นคลังการเรือที่มีสะพานยื่นออกไปในทะเล ใช้สำหรับเรียนการเรือของนักเรียนจ่าทหารเรือ) เนื่องจากที่นี่มีเพื่อนตุ๊กแกเยอะ และมีแสงไฟล่อแมลง จึงไม่น่าจะอดตาย ประกอบกับถ้าปล่อยในป่า ก็อาจไปอยู่บ้านคนอื่นให้เขาว่าเอาได้
          ช่วงนั้น กิจวัตรประจำวันของบ้านเราในตอนเช้าก่อนไปทำงาน และตอนเย็นหลังเลิกงาน ได้แก่ การสอดส่ายสายตามองหาตุ๊กแกที่เกาะอยู่ตามผนังบ้าน และตามเพดาน เมื่อพบแล้วก็ชวนกันลงมือจับตุ๊กแก  เราทำงานกันเป็นทีม พ่อบุญชำนาญการจับขึ้นเรื่อยๆ จากที่กว่าจะจับได้ใช้เวลานาน หรือตุ๊กแกหนีรอดไปได้บ้าง เป็นจับได้เร็วขึ้น ส่วนยัยโกะก็ส่งอุปกรณ์กับทำหน้าที่กดตัวตุ๊กแกได้แน่นขึ้น ไม่เก้ๆกังๆ จนดิ้นหลุดเหมือนหนแรกๆ บางคราวพ่อบุญจับตุ๊กแกได้แล้ว ยังมีลูกเล่นถือตุ๊กแกมาแกล้ง "แฮ่" ใส่แม่แก้วได้อีก (นิสัยไม่ดีมาก) ในที่สุดตุ๊กแกแกก็ถูกพาออกจากบ้านจนเหลือตัวสุดท้าย
          เจ้าตัวสุดท้ายนี้ ตัวใหญ่มาก น่าจะเป็นพ่อตุ๊กแก หรือหัวหน้าตุ๊กแก เราจับได้ในเช้าก่อนไปแถวเวลา ๐๘๓๐ บังเอิญใกล้เวลาแถว เลยวางตุ๊กแกใส่ถุงใว้หน้าบ้านแล้วไปอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวไปทำงาน กะว่าจะพาไปปล่อยตอนออกจากบ้านไปแถว แต่ลืมสนิท จนพักกลางวันกลับมาบ้านซอย ๒ (บ้านเรากับที่ทำงานอยู่ห่างกันแค่ ๕๐๐ เมตร เลยกลับบ้านทุกพักกลางวัน) ผลปรากฏว่าเจ้าตุ๊กแกโชคร้ายต้องตากแดดอยู่ในถุงครึ่งวัน กว่าพ่อบุญจะพาไปปล่อย พ่อบุญบอกว่า ตอนปล่อยมันออกจากถุง มันค่อยๆคลานออกจากถุงอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง (น่าสงสารจัง ขออโหสินะ)
          หลังจากนั้นมา บ้านเราก็ปลอดตุ๊กแกโดยสิ้นเชิง แม่แก้วดีใจมากที่ได้นอนในห้องนอนที่ไม่มีตุ๊กแกอีกต่อไป  สำหรับสิงสาราสัตว์อื่นๆในบ้านซอย ๒ ได้แก่ นกที่มาทำรังออกไข่ที่ประตูทางออกหลังบ้าน  นกที่หลงเข้ามาบินในบ้านแล้วหาทางออกไม่ได้ บินหาแสง บินชนกระจกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนต้องช่วยนำออกไป  งูเขียวตัวเล็กที่เลื้อยเข้ามาทางหน้าต่างช่องบันได ค้างคาวที่มานอนห้อยหัวในห้องน้ำชั้นล่างทุกวัน (เช้ามานอนเย็นออกไปหากิน)  แมลงสาบที่มีมากมาย จนต้องฉีดยาปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ เก็บศพได้เป็นกระป๋อง หนูที่ใช้กรงดักไปปล่อยไกลๆ ผึ้งหรือต่อที่ทำรังตามผนังบ้าน จิ้งจกที่มาอยู่มากมายแทนตุ๊กแก มด แมลงหวี่ และแมลงเม่าที่มาเล่นไฟหลังฝนตก ฯลฯ สัตว์เหล่านี้ บางชนิดเป็นสัตว์พาหะ จึงต้องใช้วิธีจากกันด้วยสันติ ยกเว้นบางกรณีที่ไม่สามารถทำได้อาจจำใจต้องใช้มาตรการเด็ดขาดบ้าง
          หลังจากพ่อบุญกับแม่แก้วเข้าไปอยู่บ้านร้างซอย ๒ ได้สักพักสิงสาราสัตว์เหล่านี้ก็ทยอยอพยพออกไป ส่วนบ้านที่ตอนแรกดูร้างและทรุดโทรมจนไม่น่าจะอยู่ได้ เมื่อมีคนเข้าไปอยู่ก็กลับมามีชีวิตชีวาขึ้น คนที่มาเยี่ยมบ้านมักทักว่าบ้านเปลี่ยนไปมาก ไม่น่าเชื่อว่าบ้านร้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้รกครึ้มและสิงสาราสัตว์ จะกลายมาเป็นบ้านที่สะอาดสะอ้านมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง ^___^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น